วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วันแรกในชีวิตของนู๋ (2)

แม่เริ่มเล่าต่อเลยนะคะ
ลูกรู้มั้ยคะว่า การผ่าตัดทางช่องท้อง มีมานานแล้วตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณโดยภรรยาของจูเลียสซีซาร์ ปวดท้องจะคลอดน้องอยู่ 3 วัน 3 คืน แต่คลอดเองไม่ได้ จึงมีการผ่าตัดขึ้นมาตั้งแต่ตอนนั้น (ไม่ได้ระบุนะคะว่าภรรยาของซีซาร์ คือ พระนางคลีโอพัตราหรือไม่
          บรรยากาศในห้องรอคลอด มีทั้งคณหมอ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล แล้วก็นักศึกษาแพทย์ พยาบาลเต็มไปหมด มาคอยถามอาการ วัดชีพจร จับท้องแม่ วัดการเต้นของหัวใจลูก แม่ก็คอยตอบคำถามเพลินๆ แต่ยังไม่ถึงกับปวดท้องมากเท่าไหร่
          เวลาประมาณ 10.30 น. พยาบาลมาตรวจภายใน บอกกับแม่ว่าปากมดลูกเปิดประมาณ 4 ซม.แล้ว อดทนหน่อยนะคะ ช่วงนี้แม่เริ่มปวดถี่ขึ้น ช่วงที่ปวดจะทรมานมากๆ ไม่รู้จะอยู่ยังงัยดีล่ะลูกเอ๋ย แต่ที่แย่ คือ มีอาการปวดหลังมากๆด้วย แม่ขอให้น้องพยาบาลช่วยไปตามคุณพ่อเข้ามาในห้อง เพื่อแม่จะได้บอกอาการพ่อ และขอกำลังใจจากพ่อด้วย
          น้องพยาบาล (เป็นพยาบาลฝึกหัดในห้องเตรียมคลอด น่ารักมาก ทั้งคอยพูดคุยให้กำลังใจ แล้วก็แนะนำเทคนิคต่างๆในช่วงคลอด แถมยังคอยนวดหลังให้และช่วยเหลือแม่ทุกอย่าง ทำให้แม่ประทับใจมากเลย แม่ยังเสียดายที่ไม่ได้ถามชื่อเค้า เผื่อพบกันคราวหน้าแม่จะได้ฝากขนมไปให้เค้าบ้าง ก็ได้น้องพยาบาลนี่แหล่ะช่วยไปตามคุณพ่อมาให้ด้วยจ้ะ  คุณพ่อเข้ามาพูดคุยปลอบ และให้กำลังใจแม่ แล้วก็คอยนวดหลังให้แม่ เพราะแม่ปวดหลังมากๆจริงๆจ้ะ สาเหตุเกิดจากศีรษะลูกเลื่อนลงไปบริเวณอุ้งเชิงกราน ทำให้ทับกระดูกสันหลัง จึงเกิดอาการปวดหลังขึ้นมา
          ประมาณ 11.00 น. แม่เริ่มเจ็บจนทนไม่ได้ จึงบอกพยาบาล พยาบาลบอกให้คุณพ่อออกไปข้างนอกก่อน พยาบาลมาตรวจภายในแล้วบอกว่าใกล้แล้ว ให้อดทนแล้วก็ฝึกการหายใจ แม่ท่องในใจว่า อดทน  อดทน  (เพื่อลูกนะจ๊ะ)
           ประมาณเที่ยงกว่าๆ แม่ทนไม่ไหวแล้วลูก บอกพยาบาลว่าปวดจนอยากจะเบ่ง พยาบาลมาตรวจพบว่าปากมดลูกเปิดได้ 9 ซม.แล้ว เตรียมคลอดได้ แล้วสอนการเบ่ง การใช้แขนและขาในการเบ่ง การออกแรงเบ่ง และการฝึกหายใจ แล้วพยาบาลก็โทรเรียกคุณหมอเรืองศักดิ์ แจ้งว่าแม่กำลังจะคลอดน้องแล้ว อยู่ดีๆแม่ก็ได้ยินเสียงแตกพังโพละ ถุงน้ำคร่ำแตกแล้วลูก แม่ถูกเข็นเข้าไปในห้องคลอด ตื่นเต้นๆ
แล้วคุณหมอเรืองศักดิ์ก็มา ขณะนั้นแม่ก็พยายามเบ่ง เพราะรู้สึกปวดท้องอยากเบ่ง เบ่งครั้งแรก คุณหมอกับพยาบาลก็ช่วยลุ้นและให้กำลังใจกันใหญ่ ครั้งแรกก็เห็นหัวลูกแล้ว เห็นผมลูกก่อนเลย เบ่งอีก 2 ครั้ง นู๋ก็ออกมาลืมตาดูโลกภายนอกแล้วจ้า ต่อจากนั้นคุณหมอบอกให้แม่หยุดเบ่ง เพราะกลัวปากมดลูกจะฉีกขาด แต่แม่หยุดไม่ได้น่ะค่ะ เพราะมันจะมีลมเบ่งจากภายในด้วย แล้วพยาบาลก็เอาลูกไปล้างทำความสะอาด คุณหมอตัดสายสะดือก่อน แล้วก็ทำคลอดรกให้แม่ ก่อนที่จะเย็บปิดแผลปากมดลูก
          และแล้วพยาบาลก็นำลูกมาให้แม่ดู แม่ดีใจมากที่สุดจ้ะที่ได้เห็นหน้าลูก และรู้ว่าลูกปกติดีทุกอย่าง ลูกหน้าตาน่าเอ็นดู แม่สังเกตว่าลูกหน้าคล้ายพ่อกับแม่เหมือนกันน๊า เสร็จแล้วเค้าก็เขียนชื่อติดที่ข้อเท้าลูก (ด.ญ..........  เสนารักษ์)  บุตร นางอศิรวรรณ เสนารักษ์  ก่อนจะพาลูกไปที่ห้องอนุบาลเด็กอ่อน เพื่อรอดูอาการหลังคลอดว่าปกติดีมั้ย มีอาการตัวเหลืองตาเหลืองหรือเปล่า หายใจเองได้มั้ย แล้วพยาบาลก็บอกกับแม่ว่าประมาณ 4-5 ชม.จะนำลูกมาส่งให้คุณแม่นะคะ น้องบัวหนัก 3,150 กรัม น้ำหนักแรกเกิดถือว่าใช้ได้เลยจ้ะ นี่ถ้าน้ำหนักน้อยกว่านี้ สงสัยคุณแม่ต้องโดนแซวแน่ๆ เพราะบำรุงได้แต่แม่ ไม่ได้ลูกเล๊ย
          แม่ถูกนำไปที่ห้องพักฟื้นหลังคลอด น้องพยาบาลนำน้องไปให้คุณพ่อดู แล้วคุณพ่อก็รีบเข้ามาหาแม่ที่ห้องพักฟื้น ขณะที่แม่อยู่ในห้องพักฟื้น พยาบาลนำอาหารมาให้ เชื่อมั้ยลูกว่าแม่สามารถทานได้ทันที นี่คือข้อดีของการคลอดแบบธรรมชาติ คือหลังจากคลอดเสร็จแล้ว คุณแม่จะสามารถอุ้มลูกหรือทำอะไรได้ทันที แต่พยาบาลก็ไม่ให้แม่ลุกจากเตียงนะจ๊ะ ให้นอนพักฟื้นอยู่บนเตียง 12 ชม. คือกลัวมดลูกจะไม่เข้าที่ แล้วก็สอนการนวดท้องให้แม่ โดยให้กดท้องเป็นวงกลม อย่าให้ท้องนิ่ม ต้องให้แข็งๆเข้าไว้ กันว่าอาจจะมีการตกเลือดได้
          ช่วงเวลานั้น เป็นช่วงฤดูแห่งความยินดีจริงๆ คุณพ่อโทรศัพท์บอกคนนู๊นคนนี้ตลอด ว่าลูกคลอดแล้ว และมีญาติๆและเพื่อนๆโทรถามข่าวคราวตลอด คุณตากับคุณยายไปทานข้าวกลางวันกลับมาก็เจอหลานสาวคนสวยแล้ว (ลืมไป  ยังไม่ได้เจอหรอกลูก แต่ทราบข่าว ลูกยังอยู่ในห้องอภิบาลเด็กอ่อนอยู่เลย)  คุณตาเล่าว่า ตอนลงไปกินข้าว เห็นคุณหมอเรืองศักดิ์วิ่งขึ้นมาด้วย แม่คิดว่า คุณหมอรีบวิ่งมาเพราะลูกกำลังจะออกมาจากท้องแม่ยังงัยล่ะจ้ะ
          และแล้วแม่ก็ถูกเข็นมาที่ตึกสูติกรรมชั้น 5 เตียง 27 เพื่อพักฟื้น ตอนนั้นยังหาห้องพิเศษไม่ได้เลย พ่อเค้าก็พยายามไปจองห้อง แต่ศูนย์จองห้องพิเศษเค้าบอกว่าช่วงนี้มีเด็กเกิดเยอะ ต้องรอห้อง คุณตาเลยโทรไปให้คุณยายนิดช่วยติดต่อจองห้องให้ ปรากฏว่า คุณยายนิดให้เอาห้องสูทวีไอพีไปเลย เรื่องค่าใช้จ่ายเดี๋ยวคุณยายออกให้เอง  ต้องขอขอบคุณ คุณยายนิดมากๆค่ะ เพื่อลูก ทำให้พ่อ แม่ ลูก ที่กำลังเป็นครอบครัวใหม่ได้เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความรู้สึกพิเศษในฐานะครอบครัวใหม่ และอบอุ่นไปด้วยบรรดาญาติทั้งคุณตาคุณยาย คุณยายนิด พี่พิม คุณปู่ คุณย่า ลุงบ่าว ป้าเหมียว พี่เปียโน พี่กีตาร์
           ประมาณ 19.30 น. แม่ก็ถูกย้ายเข้ามาอยู่ห้องพิเศษ เฉลิมพระบารมี 12 (ห้อง 1265) คืนนี้คุณปู่มานอนเป็นเพื่อนด้วย คืนแรกเต็มไปด้วยความวุ่นวาย สับสนในชีวิตของพ่อกับแม่มาก ขณะว่าแม่เตรียมตัวมาแล้วนะจ๊ะ อ่านหนังสือก็เยอะ แต่พอเจอของจริง แม่กลับทำอะไรไม่ถูกเลย พยาบาลที่นี่น่ารักมากๆมาช่วยดูแลลูกกันใหญ่ ให้คำแนะนำทั้งการให้นม การดูแลตัวเองทั้งแม่ทั้งลูก  คุณพ่อเป็นคนดูแลลูกส่วนใหญ่ในคืนแรก เนื่องจากแม่ยังทำอะไรได้ไม่ถนัดหลังคลอด ตอนกลางคืน น้ำนมแม่ยังไม่ไหลเลย พยาบาลชงนมมาให้ลูกแบบใส่แก้วมาให้ เค้าให้ลูกกินแบบจากแก้ว เพราะเด็กบางคนจะดูดนมจากขวดยังไม่เป็น นู๋กินเก่งตั้งแต่เด็กๆเลยน๊า ดื่มใหญ่เลย.........
            ลูกรู้มั้ยจ๊ะว่าลูกทำให้ทุกคนมีความสุขมากๆ พ่อกับแม่และทุกคนตั้งใจดูแลลูกให้ดีที่สุด ให้นู๋เกิดมาเติบโตแข็งแรงสมบูรณ์ เป็นเด็กดีของสังคมต่อไปนะจ๊ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น